Last updated: 3 มิ.ย. 2568 |
หากคุณกำลังวางแผน ส่งของไปต่างประเทศ หรือเริ่มต้นทำธุรกิจขายของออนไลน์ในตลาดโลก หนึ่งในคำศัพท์ที่คุณต้องรู้จักให้ดีคือคำว่า “Incoterms” เพราะมันไม่ได้เป็นแค่ศัพท์เทคนิคธรรมดาแต่คือหัวใจของความเข้าใจในการซื้อขายระหว่างประเทศ
Incoterms ย่อมาจาก International Commercial Terms หรือ "เงื่อนไขการส่งมอบสินค้า" ระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ซึ่งถูกกำหนดขึ้นโดย ICC (International Chamber of Commerce) เพื่อใช้เป็นมาตรฐานสากล
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการมือใหม่หรือผู้ขายออนไลน์ที่ต้องการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ จะเข้าใจ International Commercial terms แบ่งเป็น 11 terms ว่ามีอะไรบ้างในบทความนี้
Incoterm หรือชื่อเต็มว่า International Commercial Terms ซึ่ง Incoterm คือ ชุดของข้อกำหนดที่ใช้ในการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ โดยระบุถึงความรับผิดชอบของ “ผู้ขาย” และ “ผู้ซื้อ” อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ค่าใช้จ่าย, ความเสี่ยง, หรือ ภาระหน้าที่ในการจัดส่งสินค้า ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
Incoterms ถูกกำหนดขึ้นโดย หอการค้านานาชาติ (ICC) เพื่อใช้เป็นมาตรฐานสากลในการทำสัญญาซื้อขาย ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันและลดความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นในการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะเมื่อมีการส่งของไปต่างประเทศ
หลังจากที่เราเข้าใจแล้วว่า Incoterm คืออะไร และทำไมจึงสำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อมีการ ส่งของไปต่างประเทศ ต่อไปเราจะพาคุณมารู้จักกับ Incoterms ทั้ง 11 ข้อ
EXW ย่อมาจาก Ex Works คือข้อตกลงการซื้อขายที่ผู้ขายเพียงแค่เตรียมสินค้าไว้ ณ จุดรับสินค้า เช่น โรงงานหรือโกดังสินค้า จากนั้นผู้ซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงทั้งหมดในการขนส่งสินค้าไปยังปลายทางเอง ดังนั้นหากสงสัยว่า exw price คือ อะไร คำตอบคือราคาสินค้าที่ผู้ขายเสนอไว้โดยไม่รวมค่าขนส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด ผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลังจากรับสินค้าจากจุดต้นทาง
FCA ย่อมาจาก Free Carrier ซึ่ง FCA incoterm คือ ผู้ขายส่งมอบสินค้าให้กับผู้ขนส่ง ณ สถานที่ตกลง เช่น คลังสินค้า ท่าเรือ หรือสนามบิน แล้วผู้ซื้อจะรับผิดชอบความเสี่ยงและต้นทุนหลังจากนั้น เหมาะกับผู้ซื้อที่มีตัวแทนโลจิสติกส์ของตัวเอง
FAS ย่อมาจาก Free Alongside Ship คือ ผู้ขายนำสินค้ามาวางไว้ข้างเรือ ณ ท่าเรือต้นทาง จากนั้นผู้ซื้อจะรับผิดชอบในการขนขึ้นเรือ เหมาะกับการขนส่งสินค้าทางเรือประเภท Bulk หรือสินค้าขนาดใหญ่
FOB ย่อมาจาก Free On Board ซึ่ง FOB คือ เงื่อนไขที่ผู้ขายต้องส่งสินค้าขึ้นเรือ ณ ท่าเรือต้นทาง แล้วผู้ซื้อจะรับความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายต่อจนถึงปลายทาง เหมาะสำหรับการส่งสินค้าทางเรือ → อ่านเพิ่มเติมว่า FOB คือ
CFR ย่อมาจาก Cost and Freight ซึ่ง cfr incoterms คือ ผู้ขายรับผิดชอบค่าขนส่งทางเรือจนถึงท่าเรือปลายทาง แต่ความเสี่ยงจะย้ายมาที่ผู้ซื้อทันทีเมื่อสินค้าอยู่บนเรือ ผู้ซื้อควรพิจารณาทำประกันสินค้าเพิ่มเติม
CIF ย่อมาจาก Cost, Insurance & Freight ซึ่ง CIF incoterm คือ เงื่อนไขเดียวกับ CFR แต่ผู้ขายต้องจัดซื้อประกันภัยสินค้าให้ครอบคลุมการขนส่งจนถึงปลายทาง เหมาะสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการความคุ้มครองระหว่างทาง
CPT ย่อมาจาก Carriage Paid To คือ ผู้ขายรับผิดชอบค่าขนส่งถึงปลายทางที่ตกลงไว้ แต่ความเสี่ยงจะย้ายไปยังผู้ซื้อทันทีที่สินค้าอยู่ในมือของผู้ให้บริการขนส่งรายแรก
DDU ย่อมาจาก Delivery Duty Unpaid คือ เงื่อนไขที่ผู้ขายจัดส่งสินค้าให้ถึงปลายทางแต่ยังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมปลายทาง ผู้ซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าภาษีนำเข้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเอง (แม้จะไม่อยู่ใน Incoterms เวอร์ชันล่าสุด แต่ยังมีการใช้งานอยู่บ้าง)
DAP ย่อมาจาก Delivered At Place คือ ผู้ขายรับผิดชอบค่าขนส่งทั้งหมดจนถึงจุดหมายปลายทางที่ตกลง แต่ผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียมปลายทาง
DDP ย่อมาจาก Delivered Duty Paid ซึ่ง ddp incoterm คือ เงื่อนไขที่ผู้ขายรับผิดชอบทุกอย่างจนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้ซื้อ รวมถึงค่าขนส่ง ค่าภาษี และการจัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ เหมาะกับผู้ซื้อที่ไม่ต้องการจัดการอะไรเองเลย
เมื่อธุรกิจไทยหันมาส่งออกและนำเข้าสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การ ส่งของไปต่างประเทศ กลายเป็นเรื่องใกล้ตัว Incoterms จึงกลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องเข้าใจ เพราะจะส่งผลต่อการเจรจาราคา ความเสี่ยง และต้นทุนที่แท้จริงของธุรกรรม
ในปี 2025 จากข้อมูลที่รวบรวมจากคู่ค้าและแนวโน้มในตลาดโลจิสติกส์ พบว่า Incoterms ที่คนไทยนิยมใช้งานมากที่สุด มีดังนี้ :แม้โครงสร้างหลักของ Incoterms ทั้งสองเวอร์ชันจะคล้ายกัน แต่ Incoterm 2020 ได้มีการปรับปรุงให้เหมาะกับรูปแบบการขนส่งที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีความแตกต่างสำคัญดังนี้ :
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือผู้ที่กำลังเริ่มต้นส่งของไปต่างประเทศ การเข้าใจ Incoterms คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณจัดการเรื่องการขนส่งระหว่างประเทศได้อย่างมืออาชีพ โดยเฉพาะในเรื่อง ขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ซื้อ-ผู้ขาย ค่าขนส่ง ภาษีนำเข้า ไปจนถึงประกันภัยสินค้า ที่ทั้งหมดล้วนระบุไว้ชัดเจนในเงื่อนไขแต่ละข้อ เช่น FOB, EXW, CIF หรือ DDP ฯลฯ
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดในการส่งสินค้าไปต่างประเทศ การมีพาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องโลจิสติกส์จึงเป็นเรื่องสำคัญ Aye Cargo พร้อมให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษาเรื่อง Incoterms, แนะนำรูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมกับสินค้า ไปจนถึงบริการ Drop Off ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า Drop Off คือ อะไร ซึ่งหมายถึงขั้นตอนที่ผู้ส่งนำสินค้าไปวางไว้ ณ จุดรับของที่กำหนด เพื่อให้บริษัทโลจิสติกส์รับช่วงดูแลการขนส่งต่อจนถึงปลายทางนั่นเอง
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดในการส่งสินค้าไปต่างประเทศ การมีพาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องโลจิสติกส์จึงเป็นเรื่องสำคัญ Aye Cargo พร้อมให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษาเรื่อง Incoterms, แนะนำรูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมกับสินค้า, ตรวจสอบ ขนาดกล่องพัสดุ เพื่อประเมินต้นทุนอย่างแม่นยำ, ให้คำแนะนำด้านเอกสารศุลกากร ไปจนถึงบริการ Drop Off ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า Drop Off คือ อะไร ซึ่งหมายถึงขั้นตอนที่ผู้ส่งนำสินค้าไปวางไว้ ณ จุดรับของที่กำหนด เพื่อให้บริษัทโลจิสติกส์รับช่วงดูแลการขนส่งต่อจนถึงปลายทางนั่นเอง
3 มิ.ย. 2568
26 มี.ค. 2568
28 มี.ค. 2568