DDP Term คืออะไร? ส่งของไปต่างประเทศแบบจ่ายจบ ครบทุกขั้นตอน

Last updated: 12 ส.ค. 2568  | 

DDP Term

ในการส่งของไปต่างประเทศ หนึ่งในเรื่องที่ผู้ประกอบการหรือผู้นำเข้าควรทำความเข้าใจให้ชัดเจนก็คือ Incoterm หรือเงื่อนไขทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ โดยแต่ละแบบจะมีการแบ่งความรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายแตกต่างกันออกไป หนึ่งใน Incoterm ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสูงสุด คือ “DDP Term” หรือ “Delivered Duty Paid”

DDP Term (Delivered Duty Paid) คืออะไร?

DDP Term (Delivered Duty Paid) คืออะไร?

DDP Term หรือชื่อเต็มว่า Delivered Duty Paid คือ หนึ่งในเงื่อนไขทางการค้าสากล (Incoterm) ที่ใช้ในการส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นรูปแบบที่ ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงทั้งหมดจนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้ซื้อปลายทาง ซึ่งรวมถึง:

  • ค่าขนส่งระหว่างประเทศ
  • ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
  • ค่าประกันภัย (หากมี)
  • ภาษีนำเข้า
  • พิธีการศุลกากรทั้งฝั่งประเทศต้นทางและปลายทาง

เรียกได้ว่า DDP Term คือการ ส่งของไปต่างประเทศแบบจ่ายจบ ครอบคลุมทุกขั้นตอน โดยที่ผู้ซื้อไม่ต้องดำเนินการใด ๆ เพิ่มเติมเลย

ซึ่งต่างจากเงื่อนไขอื่น ๆ อย่าง FOB ที่ผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบตั้งแต่สินค้าขึ้นเรือ หรือกรณีเลือกใช้บริการ Drop off ก็อาจต้องจัดการเรื่องภาษีเองหากไม่ใช้ DDP Term ร่วมด้วย

DDP Term มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?

DDP Term มีเงื่อนไขอะไรบ้าง

การส่งของไปต่างประเทศ ภายใต้เงื่อนไข DDP Term (Delivered Duty Paid) ถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ส่งออกที่ต้องการควบคุมกระบวนการและค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างมืออาชีพ แต่เพื่อให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้ง ผู้ส่งออก และ ผู้นำเข้า ควรเข้าใจเงื่อนไขของ DDP อย่างชัดเจน

ผู้ส่งออก

ภายใต้ DDP Term ผู้ส่งออกมีหน้าที่หลักในการดำเนินการและรับผิดชอบทุกขั้นตอน ตั้งแต่:

  • การจัดหาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับ ขนาดกล่องพัสดุ
  • การเตรียมเอกสารสำหรับศุลกากร รวมถึงการระบุ HS code ให้ถูกต้อง
  • การจัดการขนส่งภายในประเทศไปยังท่าเรือหรือสนามบิน
  • การขนส่งระหว่างประเทศ
  • การดำเนินพิธีการศุลกากรในประเทศปลายทาง และ จ่ายภาษีนำเข้า + ค่าธรรมเนียมทั้งหมด

สรุปง่าย ๆ คือ ผู้ส่งออกต้องจัดการให้ครบทุกอย่างจนสินค้าถึงมือผู้รับโดยที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม

ผู้นำเข้า

ในทางกลับกัน ผู้นำเข้า หรือผู้รับปลายทาง แทบไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ยกเว้นการรอรับสินค้าเท่านั้น ไม่ต้องติดต่อศุลกากร ไม่ต้องชำระค่าภาษี หรือกรอกเอกสารเพิ่มเติม ถือว่าสะดวกและปลอดภัยมาก โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้รับไม่มีประสบการณ์ในการนำเข้าสินค้า

ข้อดี-ข้อเสีย DDP Term มีอะไรบ้าง?

เมื่อคุณต้องการ ส่งของไปต่างประเทศ โดยไม่ให้ลูกค้าปลายทางต้องยุ่งยากเรื่องเอกสารหรือภาษี DDP Term (Delivered Duty Paid) คือทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แต่ก่อนตัดสินใจใช้เงื่อนไขนี้ ควรพิจารณาให้รอบด้านว่า DDP มี ข้อดี-ข้อเสีย อย่างไรบ้าง เพื่อให้เหมาะกับลักษณะธุรกิจของคุณ

ข้อดีของการส่งแบบ DDP Term

  1. ลูกค้าปลายทางไม่ต้องจัดการอะไรเพิ่มเติม
    ผู้รับไม่ต้องเสียเวลาติดต่อศุลกากร หรือชำระภาษีเพิ่มเติม ทำให้ประสบการณ์รับสินค้าราบรื่น สร้างความพึงพอใจ
  2. ควบคุมต้นทุนได้ชัดเจน
    ผู้ส่งเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าขนส่ง ภาษี และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งหมด ทำให้สามารถคำนวณราคาขายแบบรวมต้นทุนได้แม่นยำ
  3. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
    ลูกค้าไว้วางใจได้มากขึ้น เมื่อคุณเสนอการจัดส่งที่ “จ่ายจบ” ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง
  4. เหมาะกับธุรกิจออนไลน์หรือ B2C
    โดยเฉพาะกลุ่มที่ขายของให้ลูกค้าต่างประเทศที่ไม่คุ้นชินกับกระบวนการนำเข้า

ข้อเสียของการส่งแบบ DDP Term

  1. ภาระด้านต้นทุนและความเสี่ยงสูงสำหรับผู้ส่งออก
    ผู้ส่งต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แม้กระทั่งภาษีในประเทศที่อาจมีอัตราไม่แน่นอน หรือมีกฎเกณฑ์เปลี่ยนแปลงบ่อย
  2. ต้องมีความรู้ด้านพิธีการนำเข้าของประเทศปลายทาง
    หากไม่เข้าใจกฎระเบียบภาษี หรือไม่ทราบว่า HS Code คือ อะไรที่ถูกต้อง อาจเกิดความผิดพลาดหรือถูกเรียกเก็บค่าปรับได้
  3. ต้องมีตัวแทนหรือพาร์ทเนอร์โลจิสติกส์ที่ไว้ใจได้ในประเทศปลายทาง
    เพราะคุณต้องจัดการทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นทางจนถึงการเคลียร์ศุลกากรและจัดส่งสินค้าในปลายทาง

DDP Term เหมาะกับการส่งสินค้าแบบไหน

  1. สินค้าส่งออกในรูปแบบ B2C (Business to Customer)
    เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์เสริมมือถือ สกินแคร์ หรือของใช้ทั่วไป ที่มักขายให้ลูกค้าต่างประเทศรายย่อย ซึ่งอาจไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ด้านศุลกากร
    – การส่งแบบ DDP ช่วยให้ลูกค้ารับของง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเคลียร์ภาษีเอง
  2. สินค้าราคาสูงหรือมูลค่าเกินเกณฑ์ต้องเสียภาษี
    เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มต้องเสียภาษีนำเข้าในประเทศปลายทาง การเลือกส่งแบบ DDP จะช่วยให้จัดการเรื่องภาษีล่วงหน้าได้ทั้งหมด
  3. สินค้าที่ต้องการภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม
    หากคุณต้องการสร้างความเชื่อมั่นและความประทับใจให้ลูกค้า การส่งของถึงที่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างความน่าเชื่อถืออย่างมาก
  4. สินค้าที่ต้องการการจัดการตั้งแต่แพ็คจนถึงจัดส่ง
    โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการความใส่ใจในเรื่องการ แพ็คของ และการควบคุมคุณภาพ เช่น สินค้าเปราะบาง ของขนาดใหญ่ หรือของที่ต้องระวังเป็นพิเศษ

DDP Term ต่างจาก DDU และ DAP อย่างไร

DDP Term ต่างจาก DDU และ DAP อย่างไร

DDU

DDU (Delivered Duty Unpaid) เป็นเงื่อนไขที่คล้ายกับ DDP แต่ ไม่รวมค่าภาษีนำเข้า นั่นหมายความว่า ผู้ขายออกจะรับผิดชอบเฉพาะค่าขนส่งและเอกสารต่าง ๆ แต่ ผู้ซื้อจะต้องชำระภาษีนำเข้าเอง ก่อนรับสินค้า ซึ่งข้อดีของ DDU Term คือ ผู้ซื้อหรือผู้รับปลายทางสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ด้วยตนเอง และอาจช่วยลดต้นทุนลงได้หากมีความเชี่ยวชาญในการนำเข้า

DAP

DAP (Delivered At Place) เป็นเงื่อนไขที่ผู้ขายจัดส่งสินค้าไปยังสถานที่ที่ตกลงไว้ในประเทศปลายทาง โดย ไม่รวมค่าภาษีและพิธีการศุลกากรฝั่งปลายทาง ผู้รับต้องดำเนินการเคลียร์สินค้าและชำระภาษีเอง DAP Term จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ซื้อที่มีความชำนาญในกระบวนการนำเข้าและต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายทางภาษีด้วยตนเอง
ในการเลือกใช้เงื่อนไขเหล่านี้ ยังควรพิจารณาร่วมกับวิธีการชำระเงิน เช่น Wire transfer ที่นิยมใช้ในการค้าระหว่างประเทศ เพื่อความปลอดภัยและความชัดเจนในการชำระเงินระหว่างคู่ค้า

ขั้นตอนการนำเข้าภายใต้ DDP Term มีอะไรบ้าง

ในการส่งของไปต่างประเทศภายใต้เงื่อนไข DDP Term ผู้ส่งออกจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอนการจัดส่ง เพื่อให้ลูกค้าฝั่งปลายทางได้รับสินค้าอย่างราบรื่น ขั้นตอนการนำเข้าแบบ DDP Term มีดังนี้:

  1. เตรียมสินค้าและเอกสารการส่งออก
    ผู้ส่งออกต้องจัดเตรียมสินค้า พร้อมเอกสารสำคัญ เช่น ใบกำกับสินค้า (Invoice), ใบรายการบรรจุ (Packing List), และเอกสารศุลกากรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  2. จัดการขนส่งระหว่างประเทศ
    เลือกบริษัทขนส่งที่เชื่อถือได้ และกำหนดวิธีขนส่ง (ทางอากาศ ทางเรือ หรือทางบก) ให้เหมาะสมกับประเภทสินค้า
  3. ดำเนินพิธีการศุลกากรในประเทศปลายทาง
    ผู้ส่งออกต้องเคลียร์ภาษีนำเข้า และดำเนินพิธีการศุลกากรให้เรียบร้อยทั้งหมด ก่อนที่สินค้าจะถูกนำส่งไปยังที่อยู่ของผู้รับ
  4. จัดส่งสินค้าถึงปลายทาง
    หลังจากเคลียร์ศุลกากรเสร็จเรียบร้อย สินค้าจะถูกส่งตรงถึงผู้รับโดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือขั้นตอนใด ๆ เพิ่มเติม

DDP Term คือเงื่อนไขการค้าที่มีประสิทธิภาพ พร้อมบริการขนส่งสินค้าจาก Aye Cargo

การเลือกใช้ DDP Term (Delivered Duty Paid) คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยให้การ ส่งของไปต่างประเทศ เป็นเรื่องง่ายและมืออาชีพ เพราะผู้ส่งออกจะเป็นผู้ดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การแพ็คของ การจัดส่ง เอกสารศุลกากร ไปจนถึงการชำระภาษีนำเข้าทั้งหมด ทำให้ผู้รับปลายทางไม่ต้องเสียเวลาเคลียร์ของหรือจ่ายอะไรเพิ่มเติม เหมาะอย่างยิ่งกับธุรกิจที่ต้องการมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบ “จ่ายครั้งเดียวจบ”

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยด้านการจัดส่งที่เชี่ยวชาญในเงื่อนไข DDP Aye Cargo พร้อมดูแลทุกขั้นตอนให้คุณแบบครบวงจร ตั้งแต่ แพ็คฟรี ทำเอกสารให้ครบ ไปจนถึงประสานงานการนำเข้าสินค้าในต่างประเทศ พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรีทุกเคส เพื่อให้การส่งออกของคุณ “ง่าย ครบ จบ ในที่เดียว”

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้