Last updated: 6 มิ.ย. 2568 |
ในโลกของการค้าระหว่างประเทศ การซื้อขายสินค้าระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายต่างประเทศไม่ได้มีแค่เรื่องของราคา เท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ การขนส่งสินค้า ต้นทุน และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือข้อพิพาทได้หากไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการซื้อขายระหว่างประเทศจึงต้องมี "Incoterm" (เงื่อนไขการส่งมอบสินค้า) เพื่อใช้เป็นมาตรฐานกลางที่ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน
หนึ่งในเงื่อนไขที่ถูกพูดถึงบ่อยและใช้แพร่หลายในวงการโลจิสติกส์คือ FOB (Free On Board) ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องต้นทุน การขนส่ง และการรับความเสี่ยงของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า FOB คืออะไร ใครเป็นผู้จ่ายค่าส่ง ใครรับผิดชอบเมื่อสินค้าเกิดความเสียหาย และช่วยให้คุณวางแผน ส่งของไปต่างประเทศ ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ในกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจนตามเงื่อนไข FOB มีความสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการคำนวณต้นทุน ความเสี่ยง และภาระต่าง ๆ ทั้งด้านเอกสารและค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องตกลงกันล่วงหน้า
ในแง่นี้ ผู้ขายและผู้ซื้อจึงต้องเข้าใจ ขอบเขตความรับผิดชอบ ของตนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจัดเตรียม ขนาดกล่องพัสดุ ให้เหมาะสมกับการขนส่ง หรือดำเนินการเรื่อง ภาษีนำเข้า ที่เกี่ยวข้องในประเทศปลายทาง
หลังจากสินค้าขึ้นเรือเรียบร้อย ความรับผิดชอบทั้งหมดจะถูกส่งต่อให้กับผู้ซื้อทันที
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่ส่งออกสินค้าหรือกำลังวางแผนนำเข้าสินค้า fob incoterms เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการควบคุมต้นทุนและบริหารความเสี่ยงอย่างสมดุล เรามาดู 3 จุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้ FOB ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
โดยทั้งสองฝ่ายจะดูแลและรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ซึ่งผู้ขายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือต้นทางเท่านั้น ส่วนผู้ซื้อจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าจากท่าเรือต้นทางไปยังท่าเรือปลายทาง จึงเป็นการลดค่าใช้จ่ายในบางส่วนของทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ทำให้ผู้ซื้อสามารถควบคุมงบประมาณได้ดีขึ้น และมีโอกาสเลือกบริการขนส่งที่คุ้มค่ากว่าในราคาที่แข่งขันได้
อีกหนึ่งจุดเด่นของ FOB คือการกำหนด ขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ซื้อและผู้ขายอย่างชัดเจน ทำให้แต่ละฝ่ายรู้หน้าที่ของตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ ลดความสับสนและป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการขนส่ง โดยเฉพาะเมื่อสินค้าเกิดความเสียหายหรือสูญหายระหว่างทาง FOB จะระบุชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้กระบวนการซื้อขายราบรื่นมากขึ้น
ด้วยความแพร่หลายของ FOB ในระบบโลจิสติกส์ระดับสากล ทำให้สามารถหาผู้ให้บริการขนส่งภายใต้เงื่อนไข FOB ได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทชิปปิ้ง ตัวแทนรับส่งสินค้า หรือตัวแทนศุลกากร ต่างก็มีประสบการณ์และบริการรองรับ FOB อย่างครบถ้วน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ และมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถูกจัดส่งอย่างมืออาชีพ
การส่งของไปต่างประเทศภายใต้เงื่อนไข FOB (Free On Board) จะมีขั้นตอนที่ต้องประสานงานระหว่างผู้ขายและผู้ซื้ออย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องเอกสารและการขนส่งที่ต้องทำให้ถูกต้องและตรงเวลา เพื่อให้การส่งออกเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหา ต่อไปนี้คือ ขั้นตอนส่งของไปต่างประเทศแบบ FOB ที่ควรรู้ โดยเรียงลำดับให้เข้าใจง่าย
การส่งของไปต่างประเทศภายใต้เงื่อนไข FOB (Free On Board) เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการควบคุมต้นทุนและจัดการกระบวนการขนส่งได้อย่างอิสระ เพราะมีการแบ่งความรับผิดชอบระหว่างผู้ขายและผู้ซื้ออย่างชัดเจน โดยผู้ขายจะดูแลสินค้าจนถึงขั้นตอนการโหลดขึ้นเรือที่ท่าเรือต้นทาง ส่วนผู้ซื้อจะเป็นผู้จัดการต่อจนถึงปลายทาง รวมถึงภาษีนำเข้าและการขนส่งภายในประเทศของตนเอง ซึ่งช่วยให้วางแผนได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญด้านการส่งออกแบบ FOB นั้น Aye Cargo พร้อมให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การเตรียมเอกสารศุลกากร ไปจนถึงการนำสินค้าส่งต่อขึ้นเรืออย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังมีจุดให้บริการ Drop Off ที่สะดวกสบาย ทำให้การส่งออกของคุณเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และไว้วางใจได้
28 มี.ค. 2568
26 มี.ค. 2568